Thank...you

+++ขอบคุณสำหรับการเข้ามาชมบล็กนะค่ะ+++

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552

1 เมษายน วันโกหก

วันที่ 1 แล้ว... เย้ๆๆ แหม... วันที่ 1 ทีไรคนไทยเป็นสุขใจทุกที เพราะเป็นวันเงินเดือนออก 55 (หรือบางคนก็อาจไม่ออก อิอิ) แถมยังเป็นวันที่นักเสี่ยงโชคร่าเริงสุดๆ เพราะเป็นวันหวยออกนั่นเอง
แต่สำหรับชาวฝรั่ง วันที่ 1 เมษายน กลับเป็นวันที่พวกเขาเรียกกันว่า "April Fool's Day" วันแห่งการโกหก ซึ่งถือเป็นวันที่จะแกล้งกันสนุกสนานด้วยการโกหก... แท้จริงมีตำนานเล่ากันมาว่า เมื่อสมัยก่อนนี้ พวกฝรั่งเขาก็มีวันขึ้นปีใหม่ใกล้ๆ บ้านเรานี่แหละคือเดือนเมษายน แต่แล้วทางการมีการเปลี่ยนวันปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม บังเอิญยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ ก็ยังคงส่ง ส.ค.ส. ให้กันในวันที่ 1 เมษายน พวกเขาก็เลยเรียกพวกนี้ว่าพวก "เมษาหน้าโง่" แล้วก็มีการแกล้งกันโดยไม่บอกความจริงเพื่อความสนุกสนาน จริงๆ มันก็แค่เนี่ยแหละ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเทศกาลอะไรของใครชาติไหน คนไทยเราเล่นด้วยหมด

วิธีการเล่นคือ...
วันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวัน April's Fool Day เป็นวันที่คนแกล้งหลอกกันด้วยการแต่งเรื่องอะไรก็ได้มาหลอกให้คนอื่นหลงเชื่อ จากนั้นค่อยเฉลยในตอนท้าย ซึ่งเรื่องที่เอามาหลอกนั้นจะต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับเลือดตกยางออก และคนที่ถูกหลอกจะต้องไม่โกรธด้วย เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ ยกเว้นให้หนึ่งวัน

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2552

Printemps



Le printemps (du latin primus, premier, et tempus, temps, cette saison commençant autrefois l'année) est l'une des quatre saisons des zones tempérées, précédant l'été et suivant l'hiver. Elle se caractérise par un radoucissement du temps, la fonte des neiges, le bourgeonnement et la floraison des plantes, le réveil des animaux hibernants et le retour de certains animaux migrateurs.

Astronomiquement, elle commence avec l'équinoxe de printemps (19, 20 ou 21 mars dans l'hémisphère nord, 22 ou 23 septembre dans le sud) et finit au solstice d'été (20, 21 ou 22 juin dans l'hémisphère nord, 21 ou 22 décembre dans le sud) En météorologie, elle commence conventionnellement le 1er mars dans l'hémisphère nord.

Le printemps et la nature

Le printemps est la saison des giboulées, une alternance de pluies et de journées ensoleillées, et de la fonte des neiges. Cette fonte survient plus rapidement en plaine qu'en montagne. Aussi il est fréquent que les habitations et les champs situés près des cours d'eau soient inondés durant la nouvelle saison en raison du sol gorgé d'eau. Aux États-Unis, en Nouvelle-Angleterre, le printemps est appelé «saison de la boue».

Selon la durée et la rigueur des hivers dans les différents pays tempérés, on assiste au printemps (de mi-mars à fin avril et même en mai dans les pays à hiver rigoureux comme au Canada) à un réveil de la nature. Les arbres, dépouillés de leurs feuilles au cours de l'automne, revivent sous l'effet des températures clémentes, des pluies fréquentes et du soleil un peu plus présent que durant la mauvaise saison. La sève descendue dans le tronc des arbres remonte, les bourgeons, restés fermés durant tout l'hiver, s'ouvrent et de nouvelles feuilles d'un vert tendre font leur apparition, grandissent et s'élargissent jusqu'à atteindre leur taille normale selon l'espèce. Elles garderont cette taille mais seront d'un vert plus foncé durant l'été.

Certains arbres fruitiers (pommiers, cerisiers...) signalent leur activité en premier lieu par l'apparition de fleurs (blanches, roses, mauves...) puis ces fleurs tombent ou sont emportées par le vent pour laisser place à de jeunes feuilles.
Les prairies et les champs sont souvent recouverts de fleurs et d'une herbe jeune et neuve, un plaisir pour le
bétail libéré de son régime au foin durant l'hiver.

วันนี้ทั่วประเทศ แจกเช็คช่วยชาติลอตแรก 5.5 ล้านฉบับ


หลังจากรอคอยกันมานาน ในที่สุด "เช็คช่วยชาติ" ช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ ของสำนักงานประกันสังคม ลอตแรกจำนวน 5.5 ล้านฉบับ ที่แจกจ่ายแก่ผู้ประกันตนที่มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท ก็ได้ฤกษ์คลอดแล้ว ทั้งนี้ ที่ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ ถนนสีลม เมื่อบ่ายวันที่ 25 มีนาคม นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พร้อมด้วยนายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงานและนายธีระ อภัยวงศ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ แถลงถึงความพร้อมโครงการเช็คช่วยชาติ ที่จะส่งมอบให้กับผู้ประกันตนตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม
คนที่ได้รับเช็คช่วยชาติควรรีบใช้จ่าย เพื่อให้ เกิดการหมุนเวียน โดยเงินที่ใส่ไปครั้งนี้มีผลต่อจีดีพี 0.2% ซึ่งตามปกติจีดีพี เพิ่มขึ้นหรือลดลง 1% มีผลต่อการจ้างงาน 300,000-350,000 อัตรา โดยเงินที่ใส่ผ่านเช็คช่วยชาติ ที่ทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.2% มีผลต่อการจ้างงาน 80,000-100,000 อัตรา ขอยืนยันว่ามาตรการเช็คช่วยชาติดังกล่าว เป็นมาตรการครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของรัฐบาล เพราะมาตรการนี้เป็นมาตรการระยะสั้น ใส่เงินเข้าไปแล้วถึงมือประชาชน ได้ผลต่อเศรษฐกิจเร็วที่สุดและรั่วไหลน้อยที่สุด” รมว.คลังกล่าว

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552

Glace


La glace est de l'eau à l'état solide.
À la pression atmosphérique normale (101 325 Pa), l'eau est sous forme de glace lorsque sa température est inférieure à sa température de fusion qui est, par convention, de 0 °C (soit 273,15 K).
Cependant, en l'absence de cristal de glace, de l'eau calme peut être refroidie à des températures inférieures à 0 °C sans se congeler, dans un état d'équilibre instable appelé surfusion, et atteindre ainsi des températures allant jusqu'à -20 °C.
La température de fusion de la glace servit de point fixe pour la définition originelle de l'échelle de températures Celsius.
Histoire
Les plus vieilles bâtisses que l'on connait ayant servi à conserver la glace datent d'il y'a 4 000 ans et se trouvent en Mésopotamie. Ce sont des constructions en terre de forme conique inversée.

แหวนแต่งงาน สุดเก๋















































































วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2552

วิธีทำให้ความจำดีขึ้น


1. หาเวลาที่เหมาะที่สุดกับการใช้ความคิดของเราในแต่ละช่วงวัน แต่ละคนแต่ละวัยจะมีช่วงทองให้กับการคิดไม่เหมือนกันว่าคนมีอายุแล้วสมองจะเคลียร์ที่สุดก็เป็นช่วงเช้า พวกหนุ่มๆ สาวๆ นั้นกว่าจะมีสมาธิในการคิดได้ก็จะเป็นช่วงบ่าย ดูตัวเองว่าความคิดดีดีของเรานั้นมักจะมาในช่วงไหน แล้วเก็บช่วงนั้นไว้สำหรับงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์
2. หาความรู้อยู่เรื่อยๆ...รู้แบบกว้างๆ ไม่จำเป็นต้องรู้ลึกไปซะทุกอย่าง แต่ความรู้ที่สะสมมาจากทุกเรื่องจะช่วยต่อยอดกับข้อมูลใหม่ๆ ให้เข้าใจได้ง่ายๆ ขึ้น
3. "จดไว้ให้จำ" เครื่องช่วยจำที่ดีที่สุด คือ จดทุกอย่างลงในกระดาษเขียนไว้กันลืม
4. เพิ่มพลังกับกาแฟ..แต่แค่ถ้วยเดียวพอ จะช่วยให้มีสมาธิดีขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าเวลาเครียดๆ ก็ห้ามเด็ดขาดเพราะจะทำให้ฟุ้งซ่านมากกว่าเดิม
5. โยงเรื่องใหม่กับความจำเดิม ให้คิดซะว่าความคิดหรือความจำที่มีอยู่เดิมนั้นเหมือนกับตุ๊กตาที่ถูกแขวนไว้กลางอากาศ กำลังรอข้อมูลใหม่ๆ เข้าไปปะติดปะต่อ อย่าปล่อยเรื่องใหม่ๆ เข้าไปอย่างไม่มีจุดเชื่อมโยง เช่น ถ้าจะจำชื่อคน ก็ลองโยงความหมายหรือเสียงของชื่อนั้นเข้ากับสิ่งต่างๆ ที่เราคุ้นเคย
6. ฝึกจำอยู่บ่อยๆ ถึงอายุอ่อนกว่าแค่ไหน แต่ถ้าไม่เคยฝึกท่องจำเลย ความจำก็อาจจะสู้คนแก่ไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อลองนึกดูว่าไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนทำไมเราถึงไม่ลืมสูตรคูณ ที่เราท่องตั้งแต่เด็ก
7. ควรให้เวลาสมองได้รับเรื่องตลกๆ หรือได้คิดอะไรที่ไร้สาระบ้าง เป็นการให้ความคิดของเราได้พักผ่อน
8. รู้จักดัดแปลงความคิดสร้างสรรค์ มักจะเกิดขึ้นมาได้จากบางอย่างที่เราคุ้นเคย
9. คบเพื่อนที่ฉลาด มีความคิดกว้างๆ.. การที่ได้อยู่ใกล้กับคนที่มีความรู้ เป็นคนฉลาดที่เปิดรับความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอนั้น จะช่วยให้เราได้คิดตาม และฝึกสมองอยู่บ่อยๆ
10. เลียนแบบ ลีโอนาโอ ดา วินซี มีวิธีมากมายที่ดาวินซีใช้สร้างสรรค์งานของเขาง่ายๆ ก็คือ ลองเขียนภาพจากมือที่ไม่ได้ถนัด
11. เอาใจใส่ เคยจำชื่อใครสักคนไม่ได้บ้างหรือเปล่า ปัญหานี้อาจจะไม่ใช่เรื่องของความจำแต่เป็นเรื่องของการใส่ใจ ถ้าเราใส่ใจกับคนๆ นั้น หรือสิ่งนั้น เราจะจำได้มากกว่าที่เป็น
12. ฟังเพลงโมสาร์ท ก่อนนอนเปิดงานของโมสาร์ทฟังซักหนึ่งรอบ จะช่วยเรื่องความจำดีขึ้นได้
13. ออกกำลังกาย เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนที่ไม่ใช่แค่ให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น แต่หมายถึงสมองได้รับออกซิเจนมากขึ้นด้วย
14. ลองทำสิ่งใหม่ๆ จะได้มีแนวความคิดที่แปลกใหม่อยู่เสมอ
15. ตัดเครื่องรบกวนสมาธิทั้งหมด เวลาที่งานนั้นต้องใช้ความตั้งใจและมีสมาธิอย่างสูง และทางที่ดีดึงสายโทรศัพท์ออกไปไม่รับสายเข้าเลยดีกว่า
ถ้าใครอยากมีความจำที่ดีขึ้น ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

ร้อนนี้น้ำแข็งใสช่วยดับร้อนได้
















อัพเดทแฟชั่น หน้าร้อน 2009

LANVIN (PARIS) & CHANEL (PARIS)

Marc Jacobs (Best of NEW YORK)

MICHEAL KORS (NEW YORK) & DOLCE& GABBANA (MILAN)

เรียนอย่างไรให้เข้าใจ



อ่านหนังสือก่อนเข้าเรียน
ทำความเข้าใจกับเนื้อหาคร่าวๆ อาจเลคเชอร์ในส่วนที่ยังไม่เข้าใจไว้ แล้วตั้งใจฟังเมื่ออาจารย์สอน จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาเร็วขึ้น การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเรียน จะเรียนรู้ได้ดีกว่านั่งฟังอาจารย์อย่างเดียว

เข้าเรียนทุกวิชาและตั้งใจเรียนให้เต็มที่
เพราะจะจับทิศทางได้ว่า สิ่งใดเป็นสิ่งสำคัญที่อาจารย์เน้นย้ำ และจดเลคเชอร์ตามด้วยภาษาตัวเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อต้องกลับไปทบทวน

เก็บรายละเอียดเนื้อหาที่อาจารย์สอน
หากไม่เข้าใจประเด็นไหนควรถามให้เข้าใจ อย่าปล่อยให้ผ่านไป เพราะจะเป็นการสะสมและอาจเกี่ยวโยงกับเนื้อหาส่วนอื่นๆ

อย่าท่องอย่างเดียว
แต่ควรทำความเข้าใจกับวิชาที่เรียน ทบทวนครั้งแรกโดยอ่านเนื้อหาทั้งหมด ต่อมาอ่านแบบจัดระบบอีกครั้ง เลคเชอร์เป็นแผนผัง เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการทบทวน

ฝึกทำโจทย์สม่ำเสมอ
ในวิชาคำนวณอย่างคณิตศาสตร์ หรือฟิสิกส์ โดยศึกษาสูตร นิยาม คำจำกัดความต่างๆ ให้เข้าใจ แล้วหมั่นทำแบบฝึกหัด จะช่วยให้เห็นความหลากหลายของโจทย์ และกระตุ้นวิธีคิดคำตอบ ช่วยเพิ่มทักษะการคำนวณได้ดี
การเรียนให้เข้าใจ สิ่งสำคัญต้องมีความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันไม่ควรเครียดจนเกินไป แต่ควรแบ่งเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ บ้าง


วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2552

“Can และ May ใช้แตกต่างกันอย่างไร?”

สองคำนี้เป็นอีกหนึ่งคู่ของคำศัพท์ที่มีคนสับสนและใช้ไม่ถูกต้องบ่อยครั้งหากเราต้องการสรุปหลักการใช้จะได้ดังนี้
ทีจริงแล้วเป็นคำที่แม่ชาวอเมริกันมักจะต้อง correct ลูกๆในพูดให้ถูกหลักเสมอยกตัวอย่างคำพูดที่เด็กเล็กมักจะขอแม่เช่น
“Can I have some milk, please?”
ประโยคนี้จะไม่ถูกหลักไวยกรณ์เนื่องจากเป็นการขอร้องไม่ใช่ความสามารถดังนั้นแม่อาจจะตอบกลับเล่นๆ เพื่อสอนว่า
“Yes, you can - but you may not!”
ซึ่งหมายความว่าลูกสามารถที่จะกินนมได้แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้กิน
Guideline
Can ใช้แสดงถึง ability (ความสามารถ) ในการทำบางอย่าง
ในขณะที่ May จะใช้เพื่อขออนุญาต หรือเพื่อแสดงถึงความน่าจะเป็นคือใช้เหมือนกับคำว่า might

ดังนั้นเรามาทดสอบตัวเราดู
1. [Can หรือ May] I borrow your crystal ball?
2. [Can หรือ May] you reach it form where you are sitting?
3. I think I [can หรือ may], but ther’s a chance I [can หรือ may] spill my coffee if I try to get it.
เฉลย
1. May - ขออนุญาตยืมลูก crystal
2. Can - แสดงความสามารถที่จะไปหยิบ
3. can, may - ตอบคำถามก่อนหน้านั้นและแสดงความสามารถ ในส่วนที่สองจะเป็นความน่าจะเป็นว่าจะทำกาแฟหก

ความจำสั้นแต่รักฉันยาว




ความจำสั้น..แต่รักฉันยาว


ว่ากันว่า ปลาทอง เป็นสัตว์ที่มีความจำสั้นเพียง 3 วินาที


ว่ากันว่า ปลาทอง เป็นสัตว์ไม่มีความรัก เพราะเพียงแค่มันว่ายจากขอบโถด้านหนึ่ง


ถึงขอบโถอีกด้านหนึ่ง มันก็จำหน้าปลาสาวที่มันเพิ่งบอกรักไม่ได้ซะแล้ว


แต่เพราะคนไม่ใช่ปลาทอง เราจึงลืมความรักกันไม่ได้ง่ายๆ !!!

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552

Casio Baby-G เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ในญี่ปุ่น




ผู้หญิงยุคใหม่กับโรคภัยใกล้ตัว






ผู้หญิงยุคใหม่กับโรคภัยใกล้ตัว (ชีวจิต)
คุณกำลังเครียดอยู่หรือเปล่า
-ความเครียดอาจจะเกิดจากเรื่องงาน หรืออาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือครอบครัวก็เป็นได้ เมื่อเกิดความเครียดขึ้น ร่างกายจะหลั่งสารฮอร์โมนที่เรียกว่า cortisol และ adrenaline ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ ทำให้ระบบการทำงานภายในร่างกายผิดปกติ ซึ่งความเครียดนี้ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีส่วนทำให้ผู้หญิงเราเกิดโรคต่างๆได้ เช่น มะเร็ง หลอดเลือดหัวใจอุดตัน ความดันเลือดสูง แผลในกระเพาะอาหาร แผลในลำไส้ใหญ่ ท้องร่วง หอบหืด วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน
-บางทีคุณเองก็กำลังเครียดอยู่ ถ้าไม่แน่ใจลองสังเกตตัวเองดูสิว่ามีอาการต่างเหล่านี้หรือไม่


วิตกกังวล หงุดหงิด อารมณ์เสียง่าย ควบคุมอารมณ์ตนเองยากขึ้น
ปวดศีรษะ มึนงง สมองไม่โล่ง รู้สึกตึ๊บๆ ที่หัว
ตื่นเต้น ตกใจง่าย
หลับไม่สนิท ฝันร้าย
เบื่ออาหาร ไม่อยากกินอะไร
ใจสั่น
ถอนหายใจบ่อยๆ
ท้องผูกหรือท้องเสีย
ปวดต้นคอ หัวไหล่ ปวดเมื่อยตามตัว
เหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลียบ่อยๆ
ไม่มีสมาธิ ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม
ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ถ้ามีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น คุณควรที่จะมีอารมณ์ขัน มองโลกในหลายๆแง่มุม ที่สำคัญ ควรที่จะรู้สึกปล่อยวาง อย่าเก็บทุกเรื่องมาคิดให้เกิดความเครียด ทำกิจกรรมที่ชอบ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณขจัดความเครียดออกไปได้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจจะทำให้คุณป่วยได้